แชร์

บทที่3

ผู้เขียน: ต้นไม้แห้ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-03 23:12:24

บ้านตระกูลลี่

“ มากันแล้วรึ “ ท่านลุงลี่เอ่ยถามทันทีที่เห็นทั้งสองคนเดินมาถึง

“ ก็ใช่น่ะสิตาแก่ แล้วนี่เจ้าจะออกไปไหน “ ท่านป้าเอ่ยถามท่านลุงอย่างสงสัยเมื่อเห็นท่านลุงหิ้วตะกร้าสะภายใส่หลังทำท่าเหมือนเตรียมจะออกไปไหน

“ ข้าก็กำลังจะออกไปล่าสัตว์น่ะสิ “

ในขณะที่ท่านลุงท่านป้าคุยกันเธอก็กวาดสายตาสำรวจภายนอกของบ้านอยู่ บ้านดินธรรมดาจะว่าเก่าก็เก่าแต่ก็ไม่ถือว่าเก่ามาก ส่วนความสะอาดนางก็ถือว่ามีความสะอาด และเป็นระเบียบมาก เธอกวาดสายตาสำรวจไปเรื่อยๆ จนกระทั่งท่านลุงกับท่านป้าคุยกันเสร็จ

“ เจ้าก็พานังหนูเมิ่งเข้าบ้านไปก่อนเถอะ “ ท่านลุงรีบเอ่ยบอกท่านป้า

“ ได้ๆ ป่ะนางหนูเมิ่งเราเข้าบ้านกันเถอะ”

หลังจากพูดจบท่านป้าลี่ก็เดินพาเธอเข้ามาในบ้านของท่านทันที

“ บ้านนี้มี2ห้องนอน ป้ากับตาแก่นอนห้องนี้ ส่วนเจ้านอนห้องนี้ก็แล้วกัน ส่วนนี่จะเป็นห้องครัว ห้องโถง ห้องเก็บเสบียงจะอยู่ด้านหลังบ้าน ตอนนี้เจ้าก็นำของเข้าห้องไปเก็บไปพักผ่อนก่อนเถิด “

“ เจ้าค่ะท่านป้า “ จูเมิ่งฮวาเอ่ยจบเธอก็เดินเข้าห้อง ห้องที่เธอนอนนั้นไม่เล็กไม่ใหญ่มาก มีขนาดปานกลาง มีเตียงเตาเธอจึงนำที่นอนท็อปเปอร์ออกมาปูทับที่นอนเก่าที่ปูไว้อยู่ หมอน1ใบ ผ้าห่มหนาอีก1ผืน นำตู้เสื้อผ้าออกมาแล้วนำเสื้อผ้ามาใส่ตู้ไว้อีก3-4 ตัว นำผ้าม่านออกมาติดตรงหน้าต่าง นำโต๊ะมาว่างข้างเตียงเตา นำไฟตั้งโต๊ะ (เป็นแบบใส่ถ่าน) มาวาง แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วแหละมั้ง

เมื่อจัดห้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงออกไปช่วยท่านป้าเตรียมข้าวเย็น เพราะนี่ก็ยามเซิน (15:00-16:59 น.) แล้ว

“ ท่านป้าเจ้าคะ มีอันใดให้ข้าช่วยไหมเจ้าคะ “ เมิ่งฮวาเอี้ยวตัวเกาะขอบประตูห้องครัวแล้วกล่าวถามท่านป้า

“ อ้าวอาเมิ่งมานี่สิ มาช่วยป้าเตรียมกับข้าวสำหรับมื้อค่ำก็แล้วกัน “ ท่านป้าเอ่ยพร้อมกับกวักมือเรียก

“ ได้เจ้าค่ะ “

หลังจากที่เธอเข้าครัวมาเธอก็เห็นเครื่องปรุงอันน้อยนิด มีแค่ผักป่ากับผักที่ปลูก เนื้อสัตว์นั้นเรียกว่าไม่มีให้นางเห็นเลย

“ ท่านป้าเจ้าคะ อาหารมื้อค่ำนี้ให้ข้าเป็นคนทำเถอะเจ้าค่ะ “ เมิ่งฮวาที่เห็นแบบนั้นแล้วก็รีบเอ่ยอาสาเป็นคนทำอาหาร

“เอ๋… เจ้าทำอาหารเป็นด้วยหรือ” ท่านป้ากล่าวถามออกมาด้วยความคลางแคลงใจ

“ข้าพอที่จะทำเป็นบ้างเจ้าค่ะ ให้ข้าเป็นคนทำเถิดเจ้าค่ะ”

“ ได้ๆ เดี๋ยวป้าไปเอาอาหารให้ไก่ก่อน ถ้าอย่างนั้นอาเมิ่งเจ้าก็ทำอาหารมื้อค่ำเถอะ “

“ เจ้าค่ะ “

พอเข้าครัวเธอจึงนำเครื่องปรุงต่างๆ มาเทใส่กระปุก นำซอสหอยนางรม น้ำปลา ไข่ไก่ ไข่เป็ด เนื้อหมูออกมาจัดให้เป็นระเบียบเผื่อท่านป้าจะทำอาหารจะได้ใช้สะดวก

ซึ่งวันนี้เธอจะทำหมูแดง ผัดกวางตุ้ง ติ่มซำ ซุปเสฉวนทะเล เมื่อคิดเมนูได้จึงเริ่มลงมือทำทันที

กลิ่นอาหารของเธอนั้นลอยตามลมไปทำให้คนที่ได้กลิ่นอดที่จะโอดครวญไม่ได้ ยิ่งบ้านข้างๆ นั้นหิวจนท้องกริ่ว แทบจะทนไม่ไหว ป้าลี่ก็ถึงกับเดินตามกลิ่นอาหารมา

“ โอ้ อาเมิ่งเจ้าทำอะไร ทำไมถึงได้หอมขนาดนี้ “

“ ข้าทำหลายอย่างเลยเจ้าค่ะมีหมูแดง ผัดกวางตุ้ง ติ่มซำ ซุปเสฉวนทะเลเจ้าค่ะ “ เมิ่งฮวาตอบอย่างฉะฉาน แต่คนฟังนี่นั้นตะลึงงันไปเรียบร้อยแล้ว

“ ทำไมหลายอย่างนักเล่า แต่เอ๋… เจ้ามีเนื้อสัตว์ด้วยหรือ ข้าจำได้ว่าบ้านข้าไม่มีเนื้อสัตว์นี่นา” ท่านป้ากล่าวถาม พร้อมกับเอ่ยกับตัวเอง

“ เจ้าค่ะ ข้านำออกมาจากนี่เจ้าค่ะ ข้างในนั้นข้าซื้อตุนไว้หลายอย่างเลยเจ้าค่ะ “ พูดจบเธอก็ชี้ที่แหวนให้ดู

“ อั้ยโย่ว! เป็นอย่างนี้นี่เอง “ ป้าลี่พยักหน้ารับรู้ คราแรกที่เห็นเมิ่งฮวาครั้งแรกนางก็คิดว่าเป็นแค่คนที่ร่ำรวยที่บ้านโดนดักปล้น แต่หลังจากที่เห็นแหวนมิติแล้วนางก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ แล้วเดินไปหยิบอาหารที่เมิ่งฮวาทำเสร็จแล้วมาขึ้นโต๊ะรอทานมื้อค่ำ

ยามโหย่ว (17:00-18:59 น.) หลังจากที่รอท่านลุงกันอยู่ ไม่นานท่านลุงก็กลับมาถึงบ้าน

“กลับมาแล้วหรือตาแก่ ได้อะไรมาหรือไม่เล่า” ท่านป้าเอ่ยทักท่านลุง

“เฮ้อ… ไม่ได้อะไรมาเลย สงสัยพรุ่งนี้ข้าคงต้องเข้าป่าลึกกว่านี้อีกสักหน่อย แต่หืม กลิ่นหอมอะไรหรือ ข้าได้กลิ่นหอมเหมือนเนื้อสัตว์เลย” ท่านลุงเอ่ยตอบ พร้อมกับถามออกไป

“มันจะอันตรายเกินไปหรือไม่ตาแก่ กลิ่นอาหารอาเมิ่งเป็นคนทำ เจ้ารีบไปล้างเนื้อล้างตัวแล้วมากินเถิด”

“ชั่งเรื่องนั้นก่อนเถิด เดี๋ยวข้าไปล้างเนื้อล้างตัวประเดี๋ยวเดียว”

หลังจากนั้นทุกคนก็พากันมานั่งกินข้าวมื้อเย็นแสนพิเศษ สำหรับเมิ่งฮวานั้นการกินเนื้อไม่ใช่เรื่องแปลกอันใดเพราะที่ที่นางจากมานั้นไม่ได้ขาดแคลนเนื้อสัตว์ หรือขาดแคลนอาหารอย่างคนที่นี่… แต่สำหรับท่านลุงกับท่านป้านั้นไม่ใช่ การที่มื้อนี้คนทั้งคู่ได้กินอาหารที่มีเนื้อสัตว์ หรือเรียกว่าอาหารจานเนื้อที่มีรสชาติที่แสนอร่อยแบบนี้นั้นหาได้ยากยิ่ง ตั้งแต่เกิดมาจนอายุขนาดนี้แล้วเรียกได้ว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้กินอาหารจานเนื้อที่แสนอร่อยแบบนี้ครั้งแรก

เมิ่งฮวาเห็นท่านลุงกับท่านป้าที่ไม่ค่อยกล้าคีบเนื้อสัตว์ในจาน จึงใช้ตะเกียบคีบเนื้อสัตว์ใส่ถ้วยให้ท่านลุงกับท่านป้า

“กินเยอะๆ นะเจ้าคะท่านลุง ท่านป้า” เมิ่งฮวากล่าวด้วยรอยยิ้มสดใส

“ขะ… ขอบใจมากอาเมิ่ง เจ้าอย่ามัวแต่ห่วงตาแก่กับป้าเลย เจ้าก็กินให้เยอะๆ ” ท่านป้าเอ่ยทั้งที่ภายในดวงตามีน้ำกลิ้งกลอกอยู่

“จริงอย่างที่ยายแก่พูด พวกข้าแก่แล้วเจ้าไม่ต้องทำอาหารจานเนื้อมากขนาดนี้ก็ได้คราวหน้าน่ะ หากเจ้าจะทำก็เก็บไว้ทำกินเองเถิด”

“ชีวิตข้าไม่มีใครอีกต่อไปแล้ว อีกทั้งท่านลุงท่านป้ายังคอยช่วยเหลือข้าคนที่เพิ่งเจอเพียงครั้งเดียวขนาดนี้ ข้าก็จะตอบแทนท่านลุงกับท่านป้าเองเจ้าค่ะ พวกท่านอย่าคิดมากอันใดไปเลยเจ้าค่ะ ข้าเต็มใจทำทุกอย่าง”

“ได้ได้ ยายแก่เช่นข้า กับตาแก่รับรู้ความกตัญญูของเจ้า” ท่านป้าพยักหน้ารับด้วยความซาบซึ้งใจ

“เช่นนั้นพวกท่านก็กินเยอะๆ นะเจ้าคะ ตลอดเวลาที่ข้าต้องอยู่ที่นี่ข้าจะเป็นคนรับผิดชอบการทำอาหารในแต่ละมื้อให้ท่านลุงกับท่านป้าเองเจ้าค่ะ”

“ได้ได้ เอาตามที่เจ้าว่าเถิด ตาแก่กับยายแก่อย่างพวกข้าไม่เถียงเจ้าแล้ว” ท่านลุงเอ่ยตอบกลับ

หลังจากนั้นทั้งสามคนก็นั่งกินข้าวกันต่อจนจบอาหารมื้อค่ำ เมื่อทั้งสามคนกินข้าวเสร็จท่านป้าก็เอ่ยปากอาสาเป็นคนเก็บถ้วยชามอาหารไปล้าง ไม่ยอมให้เมิ่งฮวาไปล้างเนื่องจากนางเป็นคนรับผิดชอบทำอาหารแล้ว เมิ่งฮวาจึงได้แต่จำใจยอมให้ท่านป้านำถ้วยชามอาหารไปล้าง ส่วนนางก็เดินกลับเข้าห้องนอนเพื่อเตรียมจะอาบน้ำพักผ่อน

…เมื่อเมิ่งฮวานำสบู่ แปรงสีฟันยาสีฟันเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปอาบน้ำ ผ่านไป1เค่อ [15นาที] เมิ่งฮวาก็อาบน้ำชำระร่างกายจนสะอาดหมดจดแล้วก็แต่งตัวแล้วเดินกลับเข้าห้องนอนไปทันที

“เสี่ยวเปา ตอนนี้ในมิติตอนนี้ข้ามีตำลึงเงินเหลือเท่าใดหรือ” เมื่อหย่อนกายนอนบนตั่งเตียงเรียบร้อย เยว่อิงก็เอ่ยถามระบบออกมา

[694,000 ตำลึงทองขอรับ] ทันที่ที่ในยินคำตอบจากเสี่ยวเปาที่มาจากในหัวเมิ่งฮวาก็ถึงกับอ้าปากค้าง เพราะต่อให้นางไม่ทำงานนางก็ยังมีกินอย่างไม่ขัดสน หรือลำบากเนื่องจากของต่างๆ ที่นางซื้อมาเก็บไว้เตรียมใส่มาในมิติอย่างเยอะแยะมากมาย ไหนจะเงินตำลึงทองมากมายนี่อีก นี่แหละชีวิตที่เมิ่งฮวาใฝ่ฝัน ชีวิตนี้ข้าจะมีชีวิตบนกองเงินกองทองให้มีความสุขที่สุดเลย หึหึ!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่63

    หลังผ่านเหตุการณ์สั่นคลอนชะตาทั้งหลายที่ปราสาทอู่หวัง และผ่านช่วงเวลาพักรักษาตัวอยู่ในจวนใหญ่ของโจวจางเหว่ย ในที่สุดนางก็สามารถฟื้นตัวคืนกำลังได้เกือบเต็มร้อย พลังลี้ลับจากเลือดมังกรในกายไม่ปรากฏอาการร้อนผ่าวอีกแล้ว เธอสัมผัสได้ว่าบัดนี้ตนไม่ต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งเช่นเดิมอีกต่อไปในเช้าวันแดดจัดที่มีเมฆลอยเรียงกันประปราย โจวจางเหว่ยได้จัดเตรียมรถม้าอย่างเรียบง่าย พาเมิ่งฮวาออกเดินทางกลับหมู่บ้านซานซี อันเป็นดินแดนเล็กๆที่เธอเคยใช้ชีวิตเรียบง่ายร่วมกับ ท่านลุงลี่คุน และท่านป้าลี่จูเสมอมาเมิ่งฮวามองเห็นทิวเขาคุ้นตาแต่ไกล ยิ่งใกล้ซานซีเท่าไรเธอยิ่งรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ นึกถึงวันที่ยังใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ไม่ต้องพัวพันกับเลือดมังกรหรือการเมืองใดๆ เมื่อถึงทางเข้าหมู่บ้านเธอเห็นรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของโจวจางเหว่ย และสัมผัสได้ถึงสายลมเย็นๆที่พัดมาเหมือนยินดีต้อนรับการกลับมาของเธอเมื่อรถม้าวิ่งเข้าเขตบ้านลุงลี่คุน ท่านป้าลี่จูก็ปราดออกมาต้อนรับทันทีด้วยรอยยิ้มที่แสดงถึงความห่วงใย“อาเมิ่ง! เจ้าไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม?” ท่านป้าลี่จูรีบเข้ามาจับมือเมิ่งฮวา ตรวจดูกันตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับหล

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่62

    เสียงก้องสะท้อนในห้องมังกรใหญ่ยังคงโหมกระพือ เสาหินรอบข้างสั่นไหวราวกับจะถล่มลงทุกเมื่อ อานุภาพมหาศาลจากแกนมังกรแผ่กระจายเป็นวงกว้าง ทำให้อากาศสั่นระริกจนทุกคนที่อยู่ในห้องรู้สึกหายใจลำบากเมิ่งฮวายืนอยู่ตรงกลางวงแสงสีทองที่ปะทุจากจุดศูนย์กลางของแท่นบูชา เหงื่อและเลือดไหลอาบบนใบหน้าที่เธอไม่อาจรับรู้ถึงความเจ็บปวดได้อีก ในจิตใจเธอมีเสียงสองกระแสคอยก้องสลับไปมา‘หลอมรวม… เพื่อเป็นผู้ครองพลัง! หรือทำลาย… เพื่อยุติความวุ่นวาย!’เบื้องหน้าเธอคือรูปสลักมังกรที่ดูเหมือนมีชีวิต แผ่นโลหะหนาทึบบนอกรูปสลักเริ่มแตกออกเป็นเสี่ยงๆเผยให้เห็นแกนมังกรคล้ายลูกแก้วสีทองสะท้อนแสงในมือเมิ่งฮวา อำนาจโบราณจากยุคสมัยราชวงศ์เก่ากำลังตื่นขึ้นพร้อมแรงกดดันอันเกรี้ยวกราดขณะที่คลื่นพลังปกคลุมห้องมังกรอย่างหนักหน่วง เหล่ามือสังหารที่ยังมีสติอยู่ก็ต้องคุกเข่าหรือหมอบกับพื้น องครักษ์ของโจวจางเหว่ยที่ยังยืนก็แทบจะทรงตัวไม่อยู่ บางคนถูกแรงอัดดีดกระเด็นไปยังซอกกำแพงโจวจางเหว่ยตะเกียกตะกายลุกขึ้น มือกำกระบี่ที่สั่นระริก พยายามฝ่าคลื่นพลังเข้ามาหาเมิ่งฮวา“ฮวาเออร์!” เขาเรียกสุดเสียง แต่ถูกแรงอัดบีบจนขยับได้ยากเต็มที

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่61

    แสงสีทองแห่งแกนมังกรที่ซ่อนอยู่ภายในร่างโลหะของมังกรส่องสว่างออกมาจากกลางแท่นบูชาอย่างน่าพิศวง บรรยากาศในห้องใต้ดินอันกว้างใหญ่ชวนให้รู้สึกถึงความเก่าแก่และพลังลี้ลับที่สั่งสมมานับศตวรรษเมิ่งฮวายืนนิ่งหัวใจเต้นระรัวเมื่อตระหนักว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือ‘หัวใจ’ของอู่หวังที่แท้จริง ต้นกำเนิดแห่งอำนาจซึ่งเหล่ากบฏกำลังตามหามาโดยตลอดขณะที่เมิ่งฮวากำลังไล่สายตาสำรวจรูปสลักมังกรขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนจะมีชิ้นส่วนโลหะพิเศษครอบอยู่เป็นเกล็ด การเต้นของเลือดในร่างกายเธอก็เร่งจังหวะไม่หยุดราวกับสายเลือดตอบสนองต่อบางสิ่งที่เปล่งพลังงานอยู่เบื้องหน้า“ฮวาเออร์…” โจวจางเหว่ยเรียกเธอเสียงเบา มือกำกระบี่ข้างกายแน่น เขามองสถานการณ์ด้วยความระแวดระวังเพราะอาจมีศัตรูโผล่มาได้ทุกเมื่อ “เจ้ารู้สึกไหมว่าพลังนี้กำลังเรียกหาเจ้า?”เมิ่งฮวาพยักหน้าเล็กน้อยสีหน้าสับสนแต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น นางไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ก้าวเข้าใกล้แท่นบูชามากขึ้นทีละนิดโดยมีโจวจางเหว่ยตามมาคุ้มกันไม่ห่างบริเวณโดยรอบแท่นบูชามีร่องรอยภาพสลักเก่าแก่บนกำแพงหินและพื้น บ้างเป็นรูปมนุษย์แต่งกายหรูหรายืนล้อมมังกร บ้างเป็นรูปผู้คนคุกเข่าบูชา

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่60

    การต่อสู้ในโถงมังกรยังคงดุเดือด ดาบกระทบกันเสียงดังสนั่น เสียงเหล็กเสียดสีกันดังไปทั่วทุกมุมโถง บางครั้งสายตาของเมิ่งฮวาก็เหลือบไปเห็นบันไดลับที่เปิดลงไปยังส่วนลึกของปราสาท อาการบาดเจ็บจากการต่อสู้รุนแรงทำให้ความคิดของเธอพร่าเบลอ แต่เธอรู้ดีว่าถ้าไม่รีบตัดสินใจตอนนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้พวกเขาพลาดโอกาสสำคัญไปท่ามกลางการต่อสู้ที่รุนแรงนักฆ่าหลายคนเริ่มแยกตัวออกไป โดยมีท่าทางเหมือนจะเริ่มมีกลยุทธ์บางอย่าง การโจมตีของพวกมันแม่นยำและรวดเร็ว หลายครั้งที่เมิ่งฮวากับโจวจางเหว่ยต้องใช้กลยุทธ์หลบหลีกและโจมตีสวนกลับ หากพวกเขายังไม่สามารถหยุดยั้งพวกมันได้ กลุ่มของพวกเขาจะต้องถูกต้อนให้มุมในไม่ช้า“พวกมันกำลังพยายามล่อเราไปที่มุม!” เมิ่งฮวาตะโกนเตือน โจวจางเหว่ยหันไปมองเธอด้วยความเป็นห่วงแต่เขาก็ไม่มีเวลาพูดอะไร เพราะมือสังหารอีกคนพุ่งมาที่เขา โจวจางเหว่ยต้องหลบการโจมตีและสวนกลับด้วยกระบี่ในมือ“ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเจ้าหลบหนีไปได้แน่!” เขาตะโกนสั่งองครักษ์ที่ยืนข้างๆ พลางฟันกระบี่ของตนอย่างแม่นยำเสียงของดาบกระทบกันดังตึงตังจนหลายคนสะดุ้ง แต่ท่ามกลางความยุ่งเหยิงนั้น เมิ่งฮวามองเห็นช่องว่างระห

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่59

    ความเงียบงันที่ปกคลุมอุโมงค์หินถูกแทนที่ด้วยเสียง ครืด… ครืด… ที่ดังสะท้อนก้องจนเสียดหู เมิ่งฮวาและโจวจางเหว่ย ยืนประจันหน้ากับเงาดำขนาดใหญ่ที่ขวางอยู่ตรงส่วนปลายทางเดิน โดยมีองครักษ์อีกสองนายจับอาวุธเตรียมพร้อมในท่าทีตื่นตัวพอแสงคบไฟสาดส่องไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆก็ปรากฏให้เห็นเงาร่างเหมือน “รูปสลักมังกร” ขนาดใหญ่หินแกะสลักที่ลำตัวยาวเลื้อยไปตามผนัง มีส่วนหัวโผล่พ้นขึ้นจากพื้นหินชนิดที่เห็นฟันแหลมคมรางๆ ดวงตาของมันเป็นอัญมณีสีเขียวเข้มสะท้อนแสงไฟพราวระยับ จนดูราวกับมันกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่จริงๆเมิ่งฮวารู้สึกถึงเลือดในกายสูบฉีดเร็วขึ้น สัญชาตญาณบางอย่างร้องเตือนว่าสิ่งนี้มิใช่เพียงรูปสลักธรรมดา เหมือนมีพลังลี้ลับแผ่ออกมาจากตัวมัน“นายท่าน… นี่มัน… เคลื่อนไหวได้หรือขอรับ?” องครักษ์คนหนึ่งถามเสียงเบาหวิว มือกำกระบี่ไว้จนข้อขาวโจวจางเหว่ยไม่ตอบ เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวโดยที่ยังไม่ลดกระบี่ เสียงหินเสียดสีกันดังครืดอีกครั้ง ขณะเดียวกันรูปสลักมังกรก็ขยับคอไปด้านข้างช้าๆก่อให้เกิดความรู้สึกขนลุกพิลึก“รูปสลักนี้มีกลไกด้านใน… หรืออาจเป็นกับดักที่ใช้แรงคนหมุน?” เขาพึมพำ แต่ความสงสัยกลับเร้าใจขึ

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่58

    ท่ามกลางกลิ่นอับชื้นและความเยียบเย็นของห้องหิน ขบวนของเมิ่งฮวาและโจวจางเหว่ยตัดสินใจหยุดพักชั่วคราวเพื่อฟื้นแรงและประเมินสถานการณ์ โดยมีองครักษ์สองนายผลัดกันออกไปยืนเฝ้าที่ปากอุโมงค์เพื่อป้องกันมือสังหารศัตรูที่อาจกลับมาได้ทุกเมื่อเมิ่งฮวานั่งพิงกำแพงที่ขรุขระ หายใจผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อยหลังจากผ่านการต่อสู้อันบีบคั้น เหลือบมองสมาชิกในขบวนที่ได้รับบาดเจ็บก็กำลังนั่งพักผ่อนเช่นกัน บางคนก็หลับตาปลดปล่อยความตรึงเครียดโดยมีอาวุธวางข้างตัวไม่ห่าง“ทุกคนเหนื่อยกันมาก…” โจวจางเหว่ยเอ่ยเสียงเบา ดวงตาเข้มทอแววห่วงใย “แต่เรายังต้องก้าวต่อไป หากพ้นคืนนี้แล้วเดินไปอีกไม่ไกลก็อาจถึงใจกลางอู่หวัง”เมิ่งฮวาพยักหน้ารับ เธอเองก็รับรู้ถึงแรงดึงดูดบางอย่างที่ลึกลงไปในภูเขานี้ คล้ายกับว่ามันรอให้เธอมาค้นพบมานานแสนนาน“นายท่าน!” องครักษ์คนหนึ่งที่เดินตรวจลึกเข้าไปในอุโมงค์ร้องเรียกเบาๆ สะท้อนเสียงมาไกล ราวกับค้นพบอะไรบางอย่างโจวจางเหว่ยและเมิ่งฮวาลุกขึ้นทันที นำองครักษ์บางส่วนถือคบไฟตามเข้าไปยังโพรงแคบภายในห้องต่อไปในโพรงนั้น… พื้นหินเรียบแต่ผนังสองข้างกลับคดเคี้ยวด้วยลวดลายสลักเป็นรูปคนและสัตว์ในท่าทางแป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status